เหตุผลที่มีการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้
การจำหน่ายหนี้สูญ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 186 (พ.ศ. 2534) มีการใช้มาเป็นเวลานาน และไม่สอดคล้องกับสภาพการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 (TFRS9) เรื่อง เครื่องมือทางการเงิน ซึ่งมีผลต่อการจัดชั้น การกันเงินสำรอง และการตัดสินทรัพย์ออกจากบัญชีของสถาบันการเงิน
ประเด็นที่ 1: เงื่อนไขการจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ (Write-off)
* กรณีฟ้องร้อง: กรรมการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัทผู้เป็นเจ้าหนี้ ต้องมีคำสั่งอนุมัติให้จำหน่ายหนี้นั้นเป็นหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ภายใน 30 วัน นับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
อนึ่ง สำหรับการดำเนินการในรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในช่วง 1 มกราคม 2563 แต่ไม่เกิน 31 ธันวาคม 2563 ให้กรรมการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัทผู้เป็นเจ้าหนี้ มีคำสั่งอนุมัติให้จำหน่ายหนี้นั้นเป็นหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ได้ ภายใน 60 วัน นับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ (Write off) กิจการจะต้องดำเนินการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
1. การติดตามทวงถามหนี้
1.1 ต้องมีหลักฐานการติดตามทวงถามอย่างชัดแจ้ง แต่ไม่ได้รับชำระหนี้
ลูกหนี้ตาย หรือ หายสาบสูญ และไม่มีสินทรัพย์ใดที่ชำระหนี้ได้
ลูกหนี้เลิกกิจการ และมีเจ้าหนี้คนอื่นรอรับชำระอยู่เหมือนกัน (จำนวนหนี้มากกว่าสินทรัพย์ของลูกหนี้)
1.2 กรณียอดหนี้ ไม่เกิน 2 แสนบาท สามารถพิจารณา Write off ได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานว่าลูกหนี้ตาย หรือหายสาบสูญ
หรือเลิกกิจการ แต่ให้มีหลักฐานว่ามีการติดตามทวงถามตามสมควรแล้ว
1.3 หากดำเนินการติดตามทวงถามหนี้ ตามที่ระบุแล้ว จึงจะสามารถ Write off ออกจากบัญชีลูกหนี้ได้
2. การฟ้องร้องลูกหนี้ (คดีแพ่ง)
2.1 กรณียอดหนี้ เกิน 2 ล้านบาท: มีหมายบังคับคดีของศาลแล้ว หรือ มีการดำเนินการบังคับคดีแล้ว แต่ลูกหนี้ไม่มี
ทรัพย์สินใดจะชำระหนี้ได้
2.2 กรณียอดหนี้ เกิน 2 แสนบาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท
ศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องแล้ว หรือ รับคำขอเฉลี่ยหนี้ในคดีที่ลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องในคดีแพ่งแล้ว
2.3 หากดำเนินการฟ้องร้องลูกหนี้ในคดีแพ่ง ตามที่ระบุแล้ว จึงจะสามารถ Write off ออกจากบัญชีลูกหนี้ได้
3. การฟ้องร้องลูกหนี้ (คดีล้มละลาย)
3.1 กรณียอดหนี้ เกิน 2 ล้านบาท
มีการประนอมหนี้กับลูกหนี้ โดยศาลมีคำสั่งเห็นชอบด้วยกับการประนอมหนี้นั้น
ลูกหนี้ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย และได้มีการแบ่งทรัพย์สินของลูกหนี้ครั้งแรก
ศาลได้มีคำสั่งปิดคดีแล้ว
3.2 กรณียอดหนี้ เกิน 2 แสนบาท แต่ไม่เกิน 2 ล้านบาท
ศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องแล้ว หรือ รับคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายแล้ว
3.3 หากดำเนินการฟ้องร้องลูกหนี้ในคดีล้มละลาย ตามที่ระบุแล้ว จึงจะสามารถ Write-off ออกจากบัญชีลูกหนี้ได้
ประเด็นที่ 2: การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ (Write-off) ของ สถาบันการเงิน ในส่วนของหนี้จากการให้สินเชื่อที่ได้กันเงินสำรองครบ 100% ไปแล้ว
สามารถพิจารณา Write-off ได้เลย โดยไม่ต้องทำตาม 3 ข้อ ด้านบน หากหนี้ดังกล่าวมีลักษณะใดลักษณะหนึ่ง ดังต่อไปนี้
เป็นลูกหนี้ค้างชำระเงินต้น หรือดอกเบี้ย เป็นระยะเวลารวมกันไม่น้อยกว่า 360 วัน หรือ 12 เดือน
เป็นลูกหนี้ที่เข้าหลักเกณฑ์ การตัดสินทรัพย์ออกจากบัญชี ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
เป็นลูกหนี้ที่เข้าหลักเกณฑ์ การตัดสินทรัพย์ออกจากบัญชี สำหรับสินทรัพย์ และภาระผูกพันธ์ทางการเงินที่มีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ประเด็นที่ 3: รอบระยะเวลาบัญชี ที่รับรู้หนี้สูญเป็นรายจ่าย
หนี้ที่ได้ดำเนินการตามกฏกระทรวงนี้ครบถ้วนแล้ว ในรอบระยะเวลาบัญชีใด ให้จำหน่ายเป็นหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ และถือเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น (Write-off ได้เลย และรับรู้ค่าใช้จ่ายในงวดนั้น ๆ) ยกเว้น
กรณีของการฟ้องร้อง (คดีแพ่ง) ให้ถือเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีที่ ศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้อง คำขอเฉลี่ยหนี้ หรือรับคำขอรับชำระหนี้ (รอให้ศาลรับเรื่องก่อน จึงจะ Write-off ได้ แล้วจึงค่อยรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในงวดนั้น)
กรณีของการฟ้องร้อง (คดีล้มละลาย) ให้ถือเป็นรายจ่ายในรอบระยะเวลาบัญชีที่ ศาลได้มีคำสั่งเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ (รอให้ศาลเห็นชอบก่อน จึงจะ Write-off ได้ แล้วจึงค่อยรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายในงวดนั้น)
กรณีเจ้าหนี้ ได้ปลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ (อ้างอิง 6 นว) สินค้าถูกเพลิงไหม้ แต่เจ้าหนี้รับรู้รายได้ในการคำนวณรายได้สุทธิเพื่อเสียภาษีนิติบุคคล (Corporate Tax) ไปแล้ว สามารถ Write-off และรับรู้ค่าใช้จ่ายในรอบระยะเวลาบัญชี ที่ปลดหนี้นั้นได้เลย (เจ้าหนี้ ยกหนี้ให้)
ประเด็นที่ 4: สำหรับการดำเนินการในรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในช่วง 1 มกราคม 2563 แต่ไม่เกิน 31 ธันวาคม 2563 ให้กรรมการหรือหุ้นส่วนผู้จัดการของบริษัทผู้เป็นเจ้าหนี้ มีคำสั่งอนุมัติให้จำหน่ายหนี้นั้นเป็นหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ได้ ภายใน 60 วัน นับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
ประเด็นที่ 5: กฏกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับสำหรับการดำเนินการที่เริ่มในรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มใน หรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
สรุปก็คือ กฏกระทรวง ฉบับนี้ มีประเด็นสำคัญที่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับวิธีการ Write-off ลูกหนี้ออกจากบัญชี สามารถเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงจาก ฉบับเดิม (ฉบับที่ 186) และ ฉบับปัจจุบัน (ฉบับที่ 374) ได้ดังนี้
กฏกระทรวงฉบับนี้ มีการปรับช่วงเพดานของยอดหนี้ให้สูงขึ้น ส่งผลทำให้กิจการสามารถทำการ Write-off ลูกหนี้เป็นหนี้สูญได้ง่ายขึ้น และเร็วขึ้น โดยที่เป็นไปตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร (รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้) เช่น
บริษัท A เป็นเจ้าหนี้การค้า บริษัท B ด้วยจำนวนยอดหนี้ 1.5 ล้านบาท
หากเป็นกฏกระทรวงฉบับเก่า ก็จะต้องทำการฟ้องร้อง และมีการดำเนินการบังคับคดีเสียก่อน (ใช้เวลาไปนานมากแล้ว) จึงจะเข้าเกณฑ์การ Write-off ของกรมสรรพากร จากนั้นจึงจะรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้
แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง มาใช้กฏกระทรวงฉบับปัจจุบัน ยอดหนี้ 1.5 ล้านบาทนี้ กิจการสามารถ Write-off ได้ตั้งแต่ วันที่ศาลมีคำสั่งรับคำฟ้อง และรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ภายใน 30 วัน (ไม่ต้องรอให้กระบวนการดำเนินไปจนถึงขั้นตอนบังคับคดี) เป็นต้น
จะสังเกตได้ว่า การ Write-off เกิดได้เร็วขึ้น เพื่อให้งบการเงินสะท้อนความเสี่ยงที่กิจการกำลังเผชิญได้อย่างเป็นปัจจุบันมากขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้แนวปฏิบัติใหม่นั้นมีความสอดคล้องกลับมาตรฐาน TFRS9 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันด้วยนั่นเอง
เขียนโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ)
FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)
ขอสงวนสิทธิ์ของเนื้อหาในบทความ ไม่ให้นำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ ในเชิงพาณิชย์ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางบริษัท ABS เท่านั้น
สนใจประเมิน TFRS9 ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ประสบการณ์ยาวนานและประเมินจริงกว่า 300 บริษัท ด้วยความคุ้มค่าเกินราคา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณศุภิชา (087-100-7199) หรือ อาจารย์ทอมมี่ (082-899-7979)
ตัวอย่างรายชื่อลูกค้า (Our Clients) สามารถดูตัวอย่างเสียงตอบรับจากผู้ใช้บริการการประเมินของเราได้ที่ www.TFRS9consulting.com/clients
Comments