เปลี่ยนผ่านอย่างมั่นใจ: จัดการผลประโยชน์พนักงานก่อนเข้าสู่ IPO

ABS (Actuarial Business Solution)
17 ก.ค.
ยาว 1 นาที

สำหรับบริษัทที่มีแผนจะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) การเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ นั้นถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในหัวข้อที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องคือเรื่องการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อฐานะทางการเงินของกิจการ และถือเป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจ

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า IPO หรือ Initial Public Offering คือกระบวนการที่บริษัทเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก เป้าหมายเพื่อเพิ่มทุนในกิจการให้เพียงพอกับการขยายตัวหรือชำระหนี้สินต่าง ๆ โดยเมื่อบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว จะกลายเป็นกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ซึ่งมีข้อกำหนดด้านบัญชีและการรายงานที่เข้มงวดมากขึ้น

เปลี่ยนมาตรฐานบัญชีเมื่อเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

บริษัทที่ยังไม่เข้า IPO มักใช้มาตรฐาน TFRS for NPAEs (Thai Financial Reporting Standards for Non-Publicly Accountable Entities) ซึ่งเหมาะกับกิจการขนาดเล็กและกลางที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอจะใช้มาตรฐานสากลเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่การเป็นกิจการมหาชน บริษัทต้องปรับมาใช้ TFRS for PAEs (Publicly Accountable Entities) ที่มีข้อกำหนดมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ TAS 19 หรือมาตรฐานการบัญชีไทยฉบับที่ 19 ว่าด้วยผลประโยชน์พนักงาน ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการคำนวณผลประโยชน์พนักงานอย่างเป็นระบบและโปร่งใส

ทำไมต้องเปลี่ยนวิธีคำนวณผลประโยชน์พนักงาน?

ภายใต้ TFRS for NPAEs บริษัทสามารถใช้วิธีการประมาณการที่ดีที่สุดตามสมควรในการตั้งหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์พนักงาน เช่น ค่าชดเชยเมื่อเกษียณหรือเลิกจ้าง โดยไม่จำเป็นต้องใช้หลักคณิตศาสตร์ประกันภัยหรือการคาดการณ์ล่วงหน้าอย่างละเอียด

แต่ภายใต้ TAS 19 มีข้อกำหนดที่ชัดเจนมากขึ้น บริษัทต้องใช้หลักคณิตศาสตร์ประกันภัยในการประเมินหนี้สินที่เกิดจากผลประโยชน์พนักงานในอนาคต เช่น การพิจารณาอายุขัย อัตราการลาออก การขึ้นเงินเดือน หรืออัตราการเสียชีวิต เป็นต้น การเปลี่ยนมาใช้มาตรฐานนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหลายกิจการ โดยเฉพาะเมื่อการคำนวณผลประโยชน์พนักงานต้องมีความแม่นยำและรองรับการตรวจสอบในระดับที่เข้มงวดขึ้น

การวัดมูลค่าใหม่ (Remeasurement)

การประเมินผลประโยชน์พนักงานภายใต้ TAS 19 ยังรวมถึงการวัดมูลค่าใหม่ หรือ Remeasurement ที่เกิดขึ้นจากความคลาดเคลื่อนระหว่างค่าที่คาดการณ์ไว้กับค่าที่เกิดขึ้นจริง โดยส่วนต่างนี้จะต้องรับรู้ในงบการเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใน TFRS for NPAEs

การแยกประเภทของค่าใช้จ่าย

TAS 19 ยังแยกค่าใช้จ่ายออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ต้นทุนบริการ (Service Cost) และดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Cost) เพื่อแสดงให้เห็นถึงต้นทุนที่เกิดจากพนักงานในเชิงบัญชีอย่างโปร่งใส ในขณะที่ TFRS for NPAEs ไม่มีการแยกเช่นนี้

ความท้าทายในการเปลี่ยนผ่าน

การเปลี่ยนจาก TFRS for NPAEs มาเป็น TAS 19 ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนวิธีคิดคำนวณเท่านั้น แต่หมายถึงการจัดการระบบข้อมูลใหม่ทั้งหมด บริษัทต้องมีข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย และต้องเตรียมระบบบัญชีที่รองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ รวมถึงต้องวางแผนการคำนวณผลประโยชน์พนักงานให้แม่นยำและต่อเนื่อง

วิธีเตรียมตัวที่แนะนำ

รวบรวมข้อมูลพนักงานอย่างครบถ้วน เช่น อายุ เงินเดือน วันที่เริ่มงาน
วางแผนการใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยหรือบริษัทที่ปรึกษา
เริ่มต้นคำนวณผลประโยชน์พนักงานล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 ปี เพื่อปรับการวางแผนทางบัญชีให้เสถียร

สรุป

การเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้มีแค่เรื่องของรายได้หรือกำไรเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงภาระที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะภาระจากผลประโยชน์ของพนักงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ TAS 19 ให้ความสำคัญมาก การเริ่มต้นวางแผนล่วงหน้า การจัดการระบบ และการคำนวณผลประโยชน์พนักงานอย่างรัดกุม จะช่วยให้บริษัทผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่น และพร้อมเข้าสู่โลกของการเป็นกิจการมหาชนอย่างเต็มภาคภูมิ

โดยองค์กรที่ต้องการความถูกต้อง โปร่งใส และมืออาชีพในการคำนวณผลประโยชน์พนักงาน สามารถไว้วางใจบริษัท ABS ได้เต็มที่ ด้วยทีมคณิตศาสตร์ประกันภัยที่มีใบรับรองจากประเทศชั้นนำ เราให้บริการครอบคลุมทุกแง่มุม และพร้อมสนับสนุนองค์กรของคุณอย่างต่อเนื่อง ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เราคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของกว่า 2,000 บริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ

เขียนและเรียบเรียงโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน)

FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)

อดีตนายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย และอาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้วยหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย ตามมาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 19

ขอสงวนสิทธิ์ของเนื้อหาในบทความ ไม่ให้นำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ ในเชิงพาณิชย์ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางบริษัท ABS เท่านั้น