top of page

การคำนวณผลประโยชน์พนักงาน: ภาระที่ต้องวางแผน ไม่ใช่ภาระที่ควรมองข้าม

  • รูปภาพนักเขียน: ABS (Actuarial Business Solution)
    ABS (Actuarial Business Solution)
  • 2 วันที่ผ่านมา
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา


ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ภาระผูกพันที่บริษัทมีต่อพนักงาน ไม่ได้จบลงแค่วันที่ได้รับเงินเดือน แต่ยังขยายไปถึงวันที่พนักงานสิ้นสุดการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเกษียณ ลาออก หรือกรณีอื่นใดที่ทำให้เกิดสิทธิ์ใน “ผลประโยชน์พนักงาน” การ คำนวณผลประโยชน์พนักงาน จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรทำแบบผ่าน ๆ แต่ควรเป็นการวางแผนที่จริงจัง รอบคอบ และแม่นยำ


ในทางบัญชี “ผลประโยชน์พนักงาน” คือสิทธิประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับจากนายจ้าง ทั้งในรูปแบบเงินสดหรือสวัสดิการอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นหลังจากที่พนักงานไม่ได้ปฏิบัติงานให้บริษัทแล้ว เช่น เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน เงินบำเหน็จ หรือบำนาญ ซึ่งหากบริษัทไม่จัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว


ความสำคัญของการวางแผนผลประโยชน์ล่วงหน้า

องค์กรที่วางแผนล่วงหน้าในเรื่องผลประโยชน์พนักงาน ย่อมได้เปรียบในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของการบริหารเงินสด

การลดความเสี่ยงทางบัญชี และการสร้างความมั่นใจให้กับพนักงาน หากไม่เตรียมการไว้ล่วงหน้า บริษัทอาจเผชิญกับภาระก้อนใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ต้องใช้เงินสดจำนวนมากในช่วงเวลาที่อาจไม่เหมาะสม


การคำนวณผลประโยชน์พนักงานจึงเปรียบเหมือนกับการออมเงินแบบมีเป้าหมาย องค์กรต้องคาดการณ์ให้ได้ว่า ในอนาคตจะต้องจ่ายเงินให้พนักงานเท่าไร แล้วทยอยรับรู้หนี้สินเหล่านี้ไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชี และยังช่วยให้

ผู้สอบบัญชีสามารถตรวจสอบ และให้ความเชื่อมั่นในงบการเงินได้ง่ายขึ้น


วิธีการคำนวณที่เหมาะสมกับแต่ละกิจการ

ในประเทศไทย มาตรฐานบัญชีแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่:

  1. TFRS for NPAEs – สำหรับกิจการขนาดเล็กและกลางที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ มาตรฐานฉบับนี้ให้อิสระในการวางแผนและรับรู้หนี้สินเกี่ยวกับผลประโยชน์พนักงาน โดยอาจใช้วิธีคำนวณย้อนหลังหลังจบปีบัญชี ซึ่งแม้จะสะดวก แต่ก็มีข้อจำกัดในแง่การวางแผนล่วงหน้า

  2. TAS 19 – สำหรับกิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ จะต้องใช้วิธีการคำนวณผลประโยชน์พนักงานล่วงหน้าด้วยวิธี Projected Unit Credit ซึ่งซับซ้อนมากกว่า ต้องคำนึงถึงอัตราการลาออก อัตราการเสียชีวิต อัตราดอกเบี้ย และอัตราการขึ้นเงินเดือน วิธีนี้จำเป็นต้องมีข้อมูลเชิงสถิติและการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ


การคำนวณที่แม่นยำ ต้องการมากกว่าแค่สูตร

แม้ว่าการคำนวณผลประโยชน์พนักงานจะมีสูตรและหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน แต่การนำมาปฏิบัติจริงต้องอาศัยความเข้าใจใน

ทั้งตัวข้อมูลและการตีความมาตรฐาน ซึ่งหลายองค์กรเลือกพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อความมั่นใจ และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สามารถใช้ยืนยันต่อผู้สอบบัญชีได้อย่างมั่นคง


หนึ่งในผู้ให้บริการที่ได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัทชั้นนำจำนวนมาก คือ บริษัท ABS ผู้เชี่ยวชาญด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานโดยเฉพาะ ทีมงานของ ABS ประกอบด้วยนักคณิตศาสตร์ประกันภัยคุณวุฒิสูงสุดระดับเฟลโล่จากประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และไทย โดยให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล ครอบคลุมทั้งการคำนวณ การจัดทำรายงาน และการตอบคำถามของผู้สอบบัญชี พร้อมการันตีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี จากลูกค้ากว่า 2,000 บริษัททั้งในและต่างประเทศ บริการของ ABS ไม่เพียงแค่แม่นยำ แต่ยังราคาเข้าถึงได้ และมีการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน


สรุป: วางแผนวันนี้ เพื่อความมั่นคงในวันหน้า

คำนวณผลประโยชน์พนักงาน ไม่ใช่ภาระที่ควรมองข้าม แต่คือการวางแผนทางการเงินที่ชาญฉลาด องค์กรที่ใส่ใจใน

การเตรียมการล่วงหน้า ย่อมมีความมั่นคงและยั่งยืนมากกว่าบริษัทที่ปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบฉับพลัน ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชี การบริหารความเสี่ยง หรือการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ทั้งหมดล้วนเริ่มต้นได้จาก “การคำนวณที่ถูกต้อง”

 

อ้างอิงจาก: https://actuarialbiz.com/th/knowledgedetails/271

 

FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)

อดีตนายกสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัยแห่งประเทศไทย และอาจารย์บรรยายด้านการคำนวณผลประโยชน์พนักงานด้วยหลักคณิตศาสตร์ประกันภัย ตามมาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 19


ขอสงวนสิทธิ์ของเนื้อหาในบทความ ไม่ให้นำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ ในเชิงพาณิชย์ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางบริษัท ABS เท่านั้น

Comments


bottom of page